ตำนานพระเครื่องของไทย พระชุดเบญจภาคี
ตำนานพระเครื่องของไทย ที่เล่าขานมายาวนานแห่งยุค ผ่านกาลเวลา ที่มีมูลค่าทวีคูณ กับผ้าดับสุดยอดพระเครื่อง ที่ได้รับการยอมรับจากเซียนพระ ทั่วประเทศ และมีผู้ศรัทธาบูชา พระพุทธคุณมูลค่าสูง กับ 5 อันดับพระชุดเบญจภาคี สุดยอดพระเครื่องของไทย ได้แก่ พระสมเด็จวัดระฆัง พระนางพญา พระรอด พระผงสุพรรณ พระซุ้มกอ
ด้วยความเชื่อและศรัทธาในเรื่องของพุทธคุณสูงส่ง สามารถคุ้มครองปกป้องให้แคล้วคลาดปลอดภัย และเสน่ห์มหานิยม ในเรื่องการค้าขาย ให้เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เซียนพระระดับพระกาฬของประเทศไทยต้องยกให้กับ พระชุดเบญจภาคี ว่าเป็นพระที่มีพระพุทธคุณสูงส่งจริง พระที่มีพุทธคุณครบทุกด้าน
และเชื่อว่าหลายๆคนจะรู้จักกันดี ในสุดยอดพระเครื่อง ที่ได้รับการยกย่อง จากเซียนพระว่ามีมูลค่าในการบูชาที่สูง และยังมีพระพุทธคุณสูงส่งครอบจักรวาล และวันนี้เราจะพาเพื่อนๆคนรักพระเครื่อง สราลี กิติยากร pantip ทุกๆคน ไปตามรอยย้อนอดีต กับพระเบญจภาคี ว่ามีต้นกำเนิดมาอย่างไร รวมไปถึง ใครเป็นผู้สร้าง วันนี้เราจะมาย้อนไปกับประวัติศาสตร์ พระเครื่องความเป็นมาต่างๆ พระเก่าแก่
ตำนานพระเครื่องของไทย ในเรื่องราวของพุทธคุณ ว่ามีดีอย่างไร
สำหรับที่มาการกำเนิดของพระชุดเบญจภาคี ได้มีผู้เขียนบรรยายไว้ในหนังสือเมื่อปี 2495 ว่า ตรียัมปวาย เป็นผู้กำหนด ซึ่งเป็นพระที่เข้าเกณฑ์จากพุทธศิลป์ ว่ามีความสวยงามและในเรื่องราวของประวัติที่มีไว้อย่างชัดเจน แต่ละองค์มีอายุมากกว่า 100 ปี และภายในชุดเบญจภาคีของแต่ละองค์ พระเครื่อง ก็มีความนิยมที่แตกต่างกันออกไป เราจึงได้มีการเรียงลำดับ ตั้งแต่ความนิยมมาก ไปจนถึงความนิยมน้อย
ตำนานพระเครื่องของไทย 5 อันดับพระชุดเบญจภาคี เป็นอย่างไรบ้าง?
1.พระสมเด็จวัดระฆัง นี่คือสุดยอด ของพระเครื่องเลยก็ว่าได้ เพราะพระสมเด็จวัดระฆัง ถือได้ว่าเป็นพระที่มีพุทธคุณ ครอบจักรวาล และมีผู้นิยมศรัทธา ในตัวองค์สมเด็จล้นพ้น จุดเด่นของพระสมเด็จ วัดระฆังในชุดเบญจภาคี ให้ดูแม่พิมพ์เป็นหลัก และในตำราเล่าว่า คนที่แกะแม่พิมพ์ ในสมัยนั้นชื่อ เสมียนตราด้วง ต้นตระกูล “ธนโกเศศ”การ เรียง ลำดับ พระเบญจภาคี เป็นผู้สร้างและได้มีการถวาย ให้กับพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี แห่งวัดระฆัง ท่านเป็นช่างที่มีฝีมือเยี่ยม ในการแกะแม่พิมพ์ ในยุคสมัยนั้น
ต่อมาสมเด็จพระพุฒาจารย์ โตพรหมรังสี ได้มีการสร้างพระขึ้น ซึ่งวิธีการสร้างไม่เหมือนกับ เกจิอาจารย์ทั่วไป โดยท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต จะใช้มวลสาร ของท่านเอง โดยมีวิธี การสร้างพระคร่าวๆ ดังต่อไปนี้ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต ได้มีการนำเศษอาหาร ที่เหลือจาก การฉันอาหารเสร็จ แล้วจากนั้น ท่านได้นำไปตากให้แห้ง พระกรุ พุทธคุณสูง สะสมไว้เป็นจำนวนมาก และนำมาอัดแท่ง ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับชอล์ก จึงนำมาเขียนอักขระลงบนผ้า ซึ่งเรียกว่า “คาถาชินบัญชร” ในปัจจุบันนี้
หลังจากที่ เขียนคาถาเสร็จเรียบร้อย ท่านได้มีการลบออก และเก็บรวบรวม เอาผงธุลีจากเศษยันต์ ที่ท่านเขียนมา รวบรวมไว้ และเมื่อได้ฤกษ์งามยามดี ถึงวันพระใหญ่ พระสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ก็ได้มีการนำผง
ที่เก็บไว้มาผสม เข้ากับปูน และใช้แม่พิมพ์ ที่ได้มาจาก เสมียนตราด้วง แล้วกดพิมพ์ พระเครื่องพุทธคุณครอบจักรวาล สร้างเป็นพระขึ้นมา ที่ชื่อว่า สมเด็จวัดระฆัง ซึ่งเป็นกรรมวิธี ที่ละเอียดอ่อนมากในสมัยนั้น และมีลูกศิษย์ลูกหา เลื่อมใส่เป็นจำนวนมาก ปัจจุบัน พระสมเด็จวัดระฆัง องค์ละประมาณเกือบ 100 ล้านบาท
พระรอดวัดมหาวัน ซึ่งมีอายุประมาณ 1,200 ปี
2.พระรอดวัดมหาวัน ประวัติของ การสร้างพระรอด วัดมหาวัน ซึ่งมีอายุประมาณ 1,200 ปี ได้มีการสร้าง ในสมัยหริภุญชัย โดยพระนางจามเทวี เป็นพระที่มีพระพุทธคุณ สูงส่ง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องแคล้วคลาดปลอดภัย และค้าขายร่ำรวย เจริญก้าวหน้า ในหน้าที่การงาน เรื่องจุดเด่น ของพระรอด เป็นพระที่มีการแกะแม่พิมพ์ ที่ละเอียด พุทธคุณพระเครื่อง และคมลึกอย่างงดงาม
มีกรรมวิธี การสร้างที่พิถีพิถัน โดยเนื้อของพระรอดเป็นเนื้อดินได้นำไปเผา จึงเกิดความงดงามแต่พระรอดในปัจจุบันนี้ มีองค์ที่สมบูรณ์น้อยมาก และมีการปลอมพระออกมา ในตลาดทุกวัน จึงทำให้ผู้เล่นพระรอด ต้องทำการศึกษา รายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับพระให้ดี พระรอดปัจจุบัน ราคาเช่าซื้ออยู่ในราคา 12ล้านบาท
3.พระซุ้มกอ มีอายุเกือบ 1000 ปี จากเดิม เป็นพระของจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งพบ ในสมัยอาณาจักร สุโขทัย รูปแบบและกรรมวิธี ของช่าง ในสมัยนั้น ก็จะมีความคล้ายคลึงกัน ในเรื่องของราคา พระซุ้มกอ ซึ่งมีราคาแพง ก็เพราะว่า ลักษณะของพุทธศิลป์ ที่มีลวดลาย สวยงาม วิจิตรสุดๆ และเป็นอีกหนึ่งพระแนวหน้า ของพระชุดเบญจภาคี พระเบญจภาคีชุดเล็ก
โดยมีประวัติ ความเป็นมา ที่เขียนไว้ในใบลาน อยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชร ส่วนด้านการเช่าซื้อบูชาในท้องตลาดพระทั่วไป พระซุ้มกอ จังหวัดกำแพงเพชร ที่สวยและสมบูรณ์ที่สุด ราคาหลายสิบล้านบาท ด้วยจุดเด่นของเนื้อพระที่ค่อนข้างที่จะละเอียด เป็นเนื้อดินผสมว่าน และเป็นการพิมพ์ที่คมชัดวิจิตร มากเลยทีเดียว ส่วนในเรื่องของพุทธคุณ มีความเชื่อว่าพระซุ้มกอ มีแล้วไม่จนและแคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายคล่องตัว ดั่งฉายาที่ว่า มีกูแล้วไม่จน
พระสวยพระผงสุพรรณ ที่ได้แชมป์ มีการปล่อยราคาสูงถึง 40 ถึง 50 ล้านบาท
4.พระผงสุพรรณ เป็นพระที่คาดว่า ได้มีการสร้างขึ้น ในสมัยอู่ทอง ในสมัยรัชกาลที่ 6 ณ ที่วัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี พระผงสุพรรณได้มีการแตกกรุ และแต่ละชนิด ที่แตกออกมา เป็นพระผงสุพรรณ ในชุดเบญจภาคี ที่มีความสวยงาม ของพุทธลักษณะ ตรงตามแบบฉบับ ในยุคสมัยอู่ทอง
ในเรื่องของความโดดเด่น ของพระผงสุพรรณ เชื่อว่าในขณะที่สร้าง ยุคนั้นบ้านเมือง อาจจะไม่ค่อย สงบมากนัก และเป็นยุค ที่มีการต่อสู้ รบราฆ่าฟัน จึงทำให้พระผงสุพรรณ มีความเชื่อ ในเรื่องคงกระพันชาตรี และเป็นอีกพระที่นิยม ในหมู่ ทหาร ตำรวจ และข้าราชบริพาร ซึ่งการเช่าซื้อ ในตลาดเช่าพระ ปัจจุบันนี้ ก็มีราคาหลายสิบล้านบาท โดยเฉพาะมี การแข่งขันพระสวย พระผงสุพรรณ ที่ได้แชมป์นั้น มีการปล่อยราคาสูง ถึง 40 ถึง 50 ล้านบาท
5.พระนางพญา ถึงอันดับสุดท้าย กับพระนางพญา โดยมีการสันนิษฐานว่า ได้มีการสร้างขึ้น โดยพราหมณ์ ณจังหวัดพิษณุโลก พระนางพญามีอายุมากกว่า 400-500 ปี และได้มีการช่าง มาหลากหลายพิมพ์ ซึ่งแต่ละทีมนั้น ก็จะมีพุทธคุณที่ขายกัน จะแตกต่างแค่พุทธลักษณะ พิมพ์ของพระนางพญา ที่ได้รับความนิยม ในปัจจุบันนี้คือ 3 พิมพ์ใหญ่ ได้แก่ พิมพ์อกนูนใหญ่ พิมพ์เข่าโค้ง พิมพ์เข่าตรง
ส่วนพิมพ์เลขที่เราเห็นบ่อยๆ จะเป็นพิมพ์สังฆาฏิ พิมพ์เทวดา พิมพ์อกนูนเล็ก และที่มาของ และที่มาของพระนางพญาโดยทั่วไป แล้วในยุคสมัยนั้นคำว่านางพญานั้นอาจจะฟังดูแล้วคล้ายกับพระผู้หญิง
ก็เพราะว่าในสมัยนั้น ผู้หญิงที่มีฐานะให้ความนิยมสักการะบูชานำมาห้อยคอ แต่อย่างใดก็ตามคำว่านางพญานั้นไม่ได้เกี่ยวกับผู้หญิง ที่เป็นคนสร้าง สำหรับพระนางพญา ในปัจจุบันนี้ราคาเช่าซื้อก็อยู่ที่ประมาณ 1ล้านบาท